ถือว่าเป็นคำถามโลกแตกคำถามหนึ่งที่หาคำตอบอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมไม่ได้ เพราะเรื่องพร้อมไม่พร้อมมันอยู่ที่ใจและสถานการณ์ของแต่ละคน บางคนเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองตั้งแต่วัยรุ่น ในขณะที่บางคนเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองตอนวัยกลางคน หรือใกล้เกษียณ แน่นอนว่าในช่วงวัยที่ต่างกันย่อมมีข้อได้เปรียบและเสียเปรียบที่แตกต่างกันออกไป แต่หากใครยังกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ เราจึงมีคำถามให้คุณ 4 ข้อ เพื่อดูว่ามันตรงกับคุณอยู่ในตอนนี้หรือไม่ หากมันตรงกับสิ่งที่คุณคิดในใจให้รู้เลยว่า “มันถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเริ่มต้นกับเส้นทางใหม่ของคุณ”

มีไฟ

เมื่อคุณรู้สึกอยากทำและมีความมุ่งมั่นที่อยากจะทำมันให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเจอปัญหาร้อยแปดพันเก้า คุณก็จะฝ่าฟันมันไปให้ได้ เริ่มต้นเมื่อยังมีไฟจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เมื่อไฟเริ่มมอดธุรกิจก็คงเข้าที่เข้าทางแล้ว 5 5 5

เมื่อการทำงานให้คนอื่นไม่ใช่ทางของเรา

การทำงานไม่ว่างานอะไรล้วนมีคุณค่าและประสบการณ์ให้เก็บสะสมแต้มเสมอ แต่เมื่อถึงจุดอิ่มตัวและคิดว่าหนทางที่กำลังดำเนินอยู่นั้นไม่ใช่หนทางของตัวเอง แต่เดี๋ยว! เราไม่ได้แนะนำให้คุณออกมาแบบไม่คิดหน้าคิดหลังนะ คุณต้องรอเวลาที่เหมาะสมและเมื่อคุณคิดว่าคุณพร้อมแล้วที่จะลุยเดี่ยวในเส้นทางที่คุณสนใจ

ตกงาน (สมัครใจ/ไม่สมัครใจ)

มันเป็นเรื่องแย่ที่อยู่ ๆ ก็โดนเชิญ (ไล่) ออกจากงานอย่างไม่มี่ความผิด อาจจะด้วยลดต้นทุนหรืออะไรก็ตาม แต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป การตกงานก็แต่ตัวเร่งให้เราเริ่มต้นธุรกิจของเราได้เร็วขึ้น หรือบางคนที่ทนไม่ไหวแล้วกับงาน แต่ไม่ใช่เหตุผลโง่ๆ เช่น ไม่มีกาแฟให้ดื่ม อาจจะด้วยความเห็นที่ไม่ลงรอยกับทิศทางบริษัท การออกจากด้วยพร้อมด้วยความมุ่งมั่น ที่จะพิสูจน์ว่า คุณทำมันได้ดีกว่า ก็เป็นตัวเร่งชั้นดี ที่จะช่วยดันให้คุณทำตามความฝันของตัวเองได้

เลิกโทษคนอื่น

การทำงานทุกงานล้วนแล้วแต่ต้องประสบกับปัญหาหลายประการ มันคงไม่ดีแน่ถ้าคุณมัวแต่โทษสิ่งแวดล้อมว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้งานหรือธุรกิจของคุณล้มไม่เป็นท่า นักธุรกิจที่ดีต้องหมั่นโทษตัวเองห้บ่อยเข้าไว้เพื่อที่จะได้แก้ไขและอุดรอยรั่วของความผิดพลาดนั้นได้หนาแน่นขึ้น หรือพูดง่ายๆก็คือ “เลิกโทษคนอื่นซะที”

หากคุณมีครบ คุณก็พร้อมแล้วที่จะเริ่มธุรกิจของคุณเอง ผมไม่สนับสนุนการทำธุรกิจแบบเสี่ยงโชค ดังนั้นองค์ความรู้เป็นสิ่งสำคัญ ที่เหลือก็แค่กล้าที่ลองทำมันแค่นั้นเอง