เมื่อกระแสเงินสดขาดมือ

การคาดการณ์ถึงอนาคตขององค์กรหรือธุรกิจอาจไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก แต่การวางแผนทางการเงินที่ดีจะช่วยป้องกันภาวะขาดแคลนกระแสเงินสดสำหรับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งอาจจะทำให้ธุรกิจเกิดปัญหาตามมาทีหลัง และการวางแผนถึงอนาคตทางการเงินและเตรียมพร้อมล่วงหน้าโดยคำนึงถึงว่า ช่วงเวลาใดที่ต้องการใช้เงินสดมากหรือน้อยเท่าใดนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเมื่อเกิดภาวะวิกฤติขาดแคลนเงินสด วิธีการต่อไปนี้อาจพอช่วยเราแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

ธนาคาร

ธนาคาร เป็นที่พึ่งอันดับแรกที่ผู้ประกอบการธุรกิจมักจะมองหาในขณะที่เกิดปัญหาทางการเงินสำหรับการทำธุรกิจ ข้อเสนอมากมายสำหรับการกู้ยืมมักมาในเวลาที่เรายังไม่ประสบปัญหาและธุรกิจกำลังดำเนินไปได้ดีและมีสภาพคล่องสูง แต่เมื่อถึงเวลาที่เกิดปัญหานั้น ธนาคารเองมักจะระมัดระวังในการปล่อยกู้ให้กับเราเป็นอย่างมากเพราะความน่าเชื่อถือและความสามารถที่จะชำระหนี้ได้ของเราลดต่ำลง ซึ่งเราควรวางแผนไว้ว่าจะต้องใช้เงินในจำนวนมาก ๆ ในช่วงเวลาใด และเริ่มติดต่อกู้ยืมเงินธนาคารในช่วงเวลาที่ธนาคารยังสนใจและมาพร้อมกับข้อเสนอดีให้กับเรา โดยการกู้ยืมนั้นอาจแบ่ง ออกเป็นสองประเภทได้แก่

การกู้ยืมระยะสั้น

โดยมักใช้สำหรับชำระค่าวัตถุดิบ แรงงานการผลิต หรือค่าบุคลาการ การกู้แบบนี้ คุณต้องวางแผนทางการเงินดีๆ และต้องมั่นใจว่า จะสามารถหมุนเงินมาจ่ายธนาคารได้ เพราะหากมีการผิดชำระหนี้ ต่อไปคุณจะกู้ได้ยากขึ้นครับ

การกู้ยืมระยะยาว

ใช้กับการลงทุนระยะยาวเช่นซื้อเครื่องจักรขนาดใหญ่ หรือการลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม ที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก คุณต้องแน่ใจว่าเป็นการกู้เพื่อให้เกิดรายรับที่มากขึ้น อย่างน้อยที่สุดคือ ต้องหาเงินจากมันให้ได้มากกว่าดอกเบี้ยแบงค์ครับ

[symple_box color=”yellow” text_align=”left” width=”100%” float=”none”]
สิ่งที่ธนาคารกังวลก็คือ กลัวคุณไม่จ่ายหนี้ คุณจึงต้องทำให้ธนาคารมั่นใจได้ว่า คุณสามารถชำระหนี้ได้ โดยการทำ Business Plan ให้ชัดเจน และเป็นไปได้มากที่สุด และหลักทรัพย์ค้ำประกันเอง ก็ต้องสมน้ำสมเนื้อกับเงินก้อนที่คุณจะกู้มาจากธนาคารเช่นกันและต้องจำไว้นะครับ คนเป็นหนี้ ยังไงก็ต้องจ่ายครับ รอบหน้าเรามีดูวิธีการแก้ปัญหาเงินสดขาดมือจากการทำ Credit กันนะครับ
[/symple_box]